ลดความอ้วนยังไง ทำไมไม่ (ค่อย) สำเร็จ
ความผอมหรืออ้วน ไม่ได้ดูที่น้ำหนักตัว แต่อยู่ที่สัดส่วน
ลองเทียบง่ายๆ จาก น้ำหนักตัว 60 เท่ากัน แต่ทำไมบางคนดูรูปร่างสมส่วน แต่บางคนกลับมีพุงย้วย ยาน ลดพุงไม่ได้ เอวเป็นห่วงยาง ทั้งที่น้ำหนักและส่วนสูงอาจเท่ากัน
งั้นมาดูกันว่าจริงๆ เราพลาดตรงไหน โดยเริ่มจาก
เช็กลิสต์พฤติกรรมตัวเอง : ดูรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันที่เกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนัก
การกิน
- กินอาหารวันละกี่มื้อ
- แต่ละมื้อที่กิน สัดส่วนอาหารครบและเหมาะสมหรือไม่
- มีการอดอาหารหรือป่าว
- เคี้ยวข้าวละเอียดหรือไม่ หรือเคี้ยวนิดหน่อยแล้วกลืนเลย
- ชอบกินมื้อดึก แต่ชอบอดอาหารเช้า ทำให้อาจไปกินหนักมื้อดึกแทน
- กินมื้อดึกแล้วนอนทันทีหรือไม่
- ชานม ขนมหวาน ต้องกินทุกวันขาดไม่ได้
- ของทอด ของมัน ของเค็ม กินเป็นประจำหรือไม่
- เคยกินยาลดน้ำหนักหรือไม่
การนอน
- นอนน้อยไม่เกินวันละ 6-8 กี่ชั่วโมง
นิสัยส่วนตัว
- ไม่ชอบรูปร่างตัวเอง แต่ก็ยังกินไม่หยุด
- ชอบเครียด ไม่ค่อยมีความสุขกับชีวิต
- สูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ
- ไม่ชอบออกกำลังกาย
- นั่งทำงานท่าเดิมเป็นเวลานานๆ ไม่ค่อยขยับตัว
ลองเช็กลิสต์ตัวเองดูก่อนว่ามีลักษณะตามนี้หรือไม่ ถ้าใช่หรือมีพฤติกรรมตามข้างบนหลายๆ ข้อ นั่นก็คงเป็นปัจจัยในการลดน้ำหนักที่ไม่ค่อยสำเร็จนั่นเอง
ทริคแนะนำการลดความอ้วนแบบ IF หรือ Intermittent Fasting
ซึ่งก็คือ วิธีลดน้ำหนักแบบจำกัดช่วงเวลากินอาหาร
โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงกิน (Feeding) และช่วงอด (Fasting) ซึ่งปกติที่คนนิยมทำกันก็คือ 16/8 คือ การกิน 8 ชั่วโมง และทำการอด 16 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายเร่งการเผาผลาญไขมันในช่วงอดมากที่สุด
โดยในช่วงกิน 1 วัน ให้กินทั้งหมด 5 มื้อ (กินสามมื้อหลัก และสองมื้อว่าง) ห้ามกินมั่วซั่ว ต้องกินตามตารางเท่านั้น ถ้าหากเข้าช่วงอดแล้วกินได้แค่น้ำเปล่า ชา หรือ กาแฟดำ (พออนุโลม) แน่นอนว่าห้ามใส่น้ำตาล หรือ นม เลยคือต้องกินแบบ 0 kcal เช่น ถ้าเรากินมื้อแรกเวลา 8.00 น. มื้อสุดท้ายต้องจบที่เวลา 16.00 น. คือต้องจบภายใน 8 ชั่วโมงที่นับจากการกินมื้อแรก หลังจากนั้นห้ามกินอีกยกเว้นน้ำเปล่า ชา หรือกาแฟดำ ที่ไม่มีพลังงาน
ตัวอย่างชั่วโมงการกินแบบ IF
กินในช่วงเวลา 8.00 – 16.00 น. หรือ
กินในช่วงเวลา 9.00 – 17.00 น. หรือ
กินในช่วงเวลา 12.00 – 20.00 น.
ในระหว่างการทำแรกๆ จะมีอาการหิว โหย เวียนหัว แนะนำว่าให้เริ่มจากการทำ IF 12/12 ซึ่งเป็นการอด 12 ชั่วโมง / กิน 12 ชั่วโมงก่อน แล้วค่อยๆเพิ่มจนเป็นการทำ IF 16/8 คือเป็นการกิน 8 ชั่วโมง และอด 16 ชั่วโมง
ซึ่งการออกกำลังกายที่ได้ผลที่สุดประกอบกับการทำ IF ก็คือ
การออกกำลังก่อนเข้าช่วงกิน เช่น ถ้าเรากินเวลา 9.00 น. การออกกำลังกายตอนเวลา 8.00 น. จะดีที่สุด แต่ถ้าไม่มีเวลา ออกตอนไหนก็ได้ ไม่ซีเรียส เพราะการลดความอ้วน สามารถทำได้ตลอดเวลา
หรือหากคิดว่าทำ IF ไม่ได้ เพราะติดเรื่องเวลา ต้องทำงานเป็นกะ ก็ให้เปลี่ยนให้ใช้วิธีลดน้ำหนักแบบอื่นแทน ซึ่ง IF เป็นแค่วิธีช่วยเร่งการเผาผลาญช่วงอดเท่านั้น
สนใจคอร์สลดน้ำหนักต่างๆ ในเพจออกจากความเป็นหมูทัก inbox มาที่ >> m.me/pig2lady
